บทความ เรียนเทรดไบนารี่ออฟชั่น นี้ มาจากประสบการณ์การเทรดส่วนตัวของผู้เขียนเอง เพื่อเป็นคู่มือให้ผู้เริ่มต้นสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ(อธิบายเป็นภาษาไทย)
คำว่า “ไบนารี่ออฟชั่น” หรือ “BINARY OPTION” เป็นคำที่มีความหมายเดียวกัน จะค้นหาคำไหนก็ได้ครับ
อยากรู้คำตอบค้นหาได้จากบทความนี้ครับ : BINARY OPTION คืออะไร
สำหรับท่านที่อ่านบทความนี้เป็นบทความแรก และไม่มีความรู้พื้นฐานการสร้างรายได้ออนไลน์ด้วยการเทรด มาก่อนเลย ถ้าต้องการเข้าใจให้ดียิ่งขึ้น แนะนำให้อ่านบทความ 3 บทความที่แนะนำ ข้างล่างนี้ก่อนครับ
เรียนไบนารี่ออฟชั่น
เนื้อหาในบทความ เรียนเทรดไบนารี่ออฟชั่น binary option ในอนาคตจะจัดทำเป็นคู่มือสำหรับให้ผู้สนใจได้นำไปศึกษาและเรียนรู้ โดยเฉพาะนำไปเป็นแนวทางในการฝึกการเทรดเพื่อสร้างกำไรได้ด้วยตัวเอง
ผู้เขียนได้ทำ ROADMAP (เส้นทาง) ไว้อย่างชัดเจนแล้ว(แบ่งปันจากประสบการณ์โดยตรง) เลือกอ่านได้ตามหัวข้อ ดังนี้
เรียนรู้
เรียนรู้ตัวเอง
เรียนรู้อย่างไร และเรียนรู้อะไรบ้าง
- เรียนรู้ เป้าหมายของตัวเอง ได้ตั้งไว้อย่างไร
- เรียนรู้ วิธีคิดของเรา รองรับที่จะเทรด ไบนารี่ออฟชั่นหรือไม่
- เรียนรู้ ระดับการยอมรับความเสี่ยงของตัวเราเอง ว่าได้แค่ไหน
- เรียนรู้ นิสัยของตัวเอง อารมณ์ เป็นคนใจร้อน โมโห ง่ายไหม
- เรียนรู้ ชีวิตประจำวันของเรา ทำงานประจำ หรือทำธุรกิจส่วนตัว
ตั้งเป้าหมายของตัวเอง
- นี่คือโจทย์การสร้างรายได้เงินของผมครับ
- ทำงานเสริมหลังเลิกงานได้ ไม่รบกวนงานประจำ
- ทำที่บ้านได้ ไม่ต้องเดินทาง /ทำที่ไหนก็ได้
- ใช้เวลาในการหารายได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- รายได้ไม่มีเพดาน อยู่ที่ทักษะของเรา
- ใช้เงินทุนต่ำ สามารถจัดการความเสี่ยงได้
- เป้าหมายทางการเงินของตัวเอง มีข้อแนะนำดังนี้
-
- สำหรับคนทำงานประจำ ให้ตั้งเป้าหารายได้เสริมออนไลน์จากการเทรด อีกช่องทางครับ(ไม่แนะนำให้ลาออกมาเทรดในทันที)
-
- สำหรับคนทำงานประจำ ตั้งเป้ารายได้จากการเทรด แนะนำตั้งให้เท่ากับรายได้ประจำก็ได้ ตัวอย่างเช่น มีรายได้จากเงินเดือน 20,000 บาท ก็ตั้งเป้ารายได้จากการเทรด 20,000 บาท ครับ
ข้อแนะนำ การตั้งเป้าเป็นเพียงการสร้างเป้าหมาย ให้เกิดความชัดเจนกับตัวเองมากขึ้น การทำกำไรเดือนละ 20,000 บาท ในระยะแรกอาจจะยังไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่เราสามารถฝึกฝนให้ไปถึงเป้านั้นได้ในอนาคต นั่นเอง และไม่ควรเร่งมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดความโลภ มีผลต่ออารมณ์การเทรด
-
- สำหรับผู้ที่กำลังเรียนหนังสือ การตั้งเป้าหมายแนะนำให้ตั้งเป้า โดยตั้งเป้ารายได้จาการเทรด โดยไม่ต้องขอเงินจากผู้ปกครอง เช่น ผู้ปกครอง ให้เงินใช้จ่าย เดือนละ 10,000 บาท ก็สามารถตั้งเป้าหมายให้มีรายได้จากการเทรด เดือนละ 10,000 บาท เป็นเป้าหมายแรก ก็ได้ครับ
-
- นอกจากตั้งเป้าหมายรายได้ที่เป็นตัวเลขชัดเจนแล้ว ต้องตั้งเป้าหมาย การเรียนรู้ และการฝึกฝน ให้ชัดเจนด้วย โดยเฉพาะต้องกำหนดเวลาไว้ให้ครับ(นี่คือหัวใจสำคัญการตั้งเป้าหมาย)
ตั้งโจทย์สร้างรายได้
ตั้งเป้าหมายการเงิน
ตั้งเป้าหมายการฝึกฝน
ปรับวิธีคิดของเราให้รองรับการเทรด Binary Option
- วิธีคิดที่ไม่ควรนำมาใช้กับการเทรด
- อยากได้เงินมากขึ้น ต้องเทรดนานขึ้น
- ไปกู้ยืมเงินมาเป็นทุนในการเทรด
- เรียนเทคนิคแล้วเทรดทำกำไรทันที
- เทรดเพราะอยากรวยเร็วๆ รวยข้ามคืน
- วิธีคิดที่ควรนำมาใช้ในการเทรด
-
- ใช้เวลาเทรดให้น้อยที่สุด : การเทรด binary option เป็นการเทรดที่มีความผันผวนสูง จึงมีความเสี่ยงสูงตาม ผลตอบแทนจึงสูงตาม ดังนั้นการอยู่ในตลาดนานเกินไปย่อมมีความเสี่ยงสูงเป็นธรรมดา ดังนั้น การลดความเสี่ยงจึงไม่ควรอยู่ในตลาดนานเกินไป อีกทั้ง การเทรดนานเกินไปย่อมทำให้สมาธิเราไม่พอ เมื่อยล้า ส่งผลต่ออารมณ์ในการเทรดเป็นอย่างมาก ก็ย่อมส่งผลต่อการเทรดในที่สุด จึงแนะนำ เทรดไม่เกิน 1 ชั่วโมง/วัน
-
- ใช้เงินทุนน้อยที่สุด : เป็นหนึ่งวิธีคิดที่สำคัญที่สุด ในการบริหารจัดการความเสี่ยง แม้เราจะมีทุนเยอะ ก็ไม่ควรนำไปลงทุนทั้งหมด จากประสบการณ์การเทรด จะลงทุนไม่เกิน 5-10 % แม้จะยอมรับความเสี่ยงได้มากกว่านี้ก็ตาม
-
- ทำกำไรให้มากที่สุด(เท่าทักษะตัวเอง) : การเทรด เป็นการใช้เงินต่อเงิน หรือใช้เงินทำงาน ดังนั้นภายใต้เวลาและเงินทุน เราสามารถปั้นทุนน้อยไปทุนมากขึ้นได้ ซึ่งก็ต้องอยู่ในความพอดีของทักษะการเทรดของตัวเราเองด้วย (ไม่ OVER TRADE )
-
- ต้องใช้เงินเย็นมาเทรด : เงินเย็น คือ เงินที่เราแยกออกมาเพื่อลงทุนโดยเฉพาะ พร้อมที่จะได้กำไร ขาดทุน โดยที่เราไม่เดือดร้อนครอบครัว
-
- นักเทรดฝึกเป็นนักวิ่งมาราธอน : นักวิ่งมาราธอน คือ คนที่ยึดทน มีความพยายาม ความเพียรสูง ค่อยวิ่งไปสม่ำเสมอ มีวินัย แข่งกับตัวเอง เมื่อเข้าเส้นชัย ได้รางวัลทุกคน
-
- การเทรดไม่ใช่เส้นทางรวยลัด หรือรวยข้ามคืน : การเทรด เหมือนกับอาชีพอื่นๆ ที่ต้องใช้ทักษะ อาศัยประสบการณ์ วิธีคิดแบบนี้จะช่วยให้ไม่โลภ และมีความเพียรมากขึ้น มืออาชีพมากขึ้น
-
- ต้องฝึกวินัยและอารมณ์ด้วย : การลงทุนด้วยเงินจริง จะมีความรู้สึกต่างๆ โดยเฉพาะกลัวแพ้ กลัวขาดทุน โมโห ใจร้อน ใจสั่น อารมณ์ทั้งหมดนี้ทำให้มีผลต่อการเทรด และการฝึกวินัยจะช่วยให้เราควบคุมอารมณ์เทรดได้ดีและเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงได้ด้วย ผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดเสมอว่า เรียนเทคนิคอย่างเดียวก็สามารถทำกำไรได้ ความจริงที่เกิดขึ้น คือ ได้บ้างไม่ได้บ้างตามอารมณ์ส่วนใหญ่ก็จะขาดทุน สิ่งที่จะทำให้เราอยู่รอดในตลาดได้คือ ฝึกวินัยและอารมณ์ ประกอบด้วย
3 กฎทองของนักเทรด
-
- ใช้เวลาให้น้อยที่สุด
- ใช้ทุนให้น้อยที่สุด
- ได้กำไรให้มากที่สุด
ระดับการยอมรับความเสี่ยงในการลงทุน ด้วยการเทรดไบนารี่ออฟชั่น
-
- การยอมรับความเสี่ยง มี 2 ประเภท
- ยอมรับความเสี่ยงวัดจาก สถานภาพทางการเงิน
- ยอมรับความเสี่ยงวัดจาก สภาพจิตใจ
- บางคน เงินเยอะ แต่สภาพจิตใจยอมรับความเสี่ยงได้น้อย
- บางคน เงินเยอะ และสภาพจิตใจยอมรับความเสี่ยงได้มาก
- บางคน เงินน้อย และสภาพจิตใจยอมรับความเสี่ยงได้น้อย
- บางคน เงินน้อย แต่สภาพจิตใจยอมรับความเสี่ยงได้มาก
- ให้สังเกตว่าเราเป็นประเภทไหน ดังนั้น ในการเทรดต้องมีการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับความเสี่ยงทั้งสองประเภท
- การยอมรับความเสี่ยง มี 2 ประเภท
ยอมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน ก็ลงทุนแค่นั้น นี่ละการลงทุนที่ดี
นิสัยของตัวเอง อารมณ์ เป็นคนใจร้อน โมโห ง่ายไหม
-
- อารมณ์ที่มีผลต่อการเทรดหลักๆ
- อารมณ์ ใจร้อน
- อารมณ์ โลภ
- อารมณ์ โมโห อยากเอาคืน
- อารมณ์มีผลต่อการเทรดยังไง
- อารมณ์ร้อน จะทำให้เราเทรดไม่ตามรูปแบบที่ฝึกฝนมา
- อารมณ์ โลภ จะทำให้เราเทรดได้แล้วอยากได้อีก
- อารมณ์ โมโห แพ้แล้วอยากได้คืน เอาทุนคืน
- อารมณ์ที่มีผลต่อการเทรดหลักๆ
ลงทุนจริง ให้สังเกตอารมณ์การเทรดของตัวเอง
ชีวิตประจำวันของเรา เรียน ทำงานประจำ หรือทำธุรกิจส่วนตัว
-
- สำหรับทำงานประจำ ก็จะทำงานโดยส่วนใหญ่ 8.00-16.00 น.
- ก็จะไม่สามารถเทรดได้ในเวลาทำงาน
- แต่จะเทรดได้หลังเลิกงาน 16.00 น.เป็นต้นไป
- สำหรับนักศึกษา เรียนมหาวิทยาลัย ก็จะเรียน 8.00-16.00 น.
- ก็จะไม่สามารถเทรดได้ในเวลาเรียน
- แต่จะเทรดได้หลังเลิกเรียน 16.00 น. เป็นต้นไป
- ต้องบอกก่อนว่า อายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์จะเปิดบัญชีไม่ได้ครับ
- ช่วงเวลาในการเทรด สำหรับคนที่ไม่ว่างตอนกลางวัน แนะนำดังนี้
- เทรดกลางคืน 20.00-23.00 น.
- เทรดเสาร์-อาทิตย์ (OTC)
- สำหรับทำงานประจำ ก็จะทำงานโดยส่วนใหญ่ 8.00-16.00 น.
เรียนรู้เครื่องมือ
เรียนรู้อะไรบ้าง และเรียนรู้อย่างไร
- เรียนรู้ BROKER คืออะไร
- เรียนรู้ เทคนิคการเลือก BROKER อย่างไร
- เรียนรู้ เครื่องมือ ที่ช่วยในการเทรดทำกำไร
BROKER คืออะไร : คือ ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ต่างๆในรูปแบบการซื้อขาย binary option นั่นเอง โบรกเกอร์ที่ให้บริการในการเทรด มีค่อนข้างเยอะพอสมควร ดังนั้นการเลือก Broker จึงสำคัญเช่นกันครับ
เทคนิคการเลือก BROKER BINARY OPTION
- เลือก ความน่าเชื่อถือ
- Broker นั้นได้รับอนุญาตไหม
- Broker จดทะเบียนถูกต้องไหม
- Broker เปิดมานานหรือยัง
- Broker มีประวัติดีหรือไม่ดีหรือไม่
- เลือก ฝาก-ถอน สะดวก
- ฝาก-ถอน มีหลายช่องทางไหม
- เงินเข้าเร็วไหม
- มีเงื่อนไขที่ยอมรับได้ไหม
- มีค่าธรรมเนียม แค่ไหนเพียงใด
- เลือก ธนาคารไทย รองรับ
- ธนาคารไทยรองรับก็จะดีมากกว่าครับ
- ทำให้เกิดสภาพคล่องในการลงทุน
- ได้กำไร ถอน เข้าบัญชีเราได้ทันที
- เลือก Platform ใช้สะดวก
- เครื่องมือในการเทรด ใช้งานง่ายไหม
- เครื่องมือหลากหลายไหม
- เครื่องมือลื่นไหลดีไหม
- Platform อับเดทเสมอไหม
- เลือก support ภาษาไทย
- ฝ่ายสนับสนุน รองรับภาษาไทย ก้ยิ่งดี
- ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ
- ฝ่ายสนับสนุน บริการดีไหม
- ตอบกลับ เร็วไหม
ข้อสังเกต : เทคนิคการเลือก Broker นั้น จริงๆแล้วมีมากกว่านี้ครับ แต่ที่นำมายกตัวอย่าง เป็นเหตุผลหลักๆในการเลือก ครับ สามารถอ่านต่อได้:เทคนิคเลือก broker binary option
OLYMP TRADE
Min deposit - $10
Min invest - $1
Max return - 92%*
Max option price - $5000
Online since - 2014
IQ OPTION
Min deposit - $10
Min invest - $1
Max return - 92%*
Max option price - $5000
Online since - 2013
ExpertOption
Min deposit - $10
Min invest - $1
Max return - 90%*
Max option price - $1000
Online since - 2014
GENERAL RISK WARNING
The financial products offered by the company carry a high level of risk and can result in the loss of all your funds. You should never invest money that you cannot afford to lose.*Amount will be credited to account in case of successful investment
เครื่องมือช่วยเทรดทำกำไร (PLATFORM BROKER)
- ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เครื่องมือช่วยเทรด แต่ละ BROKER ก็จะมีหน้าตาแตกต่างกันไป แต่คุณสมบัติของเครื่องมือก็เหมือนกัน
- เครื่องมือสำคัญ สำหรับผู้เริ่มต้น มีดังนี้
- การเพิ่ม-ลด สินทรัพย์ที่จะเทรด
- การวิเคราะห์ข่าวการลงทุน
- ปุ่มกด ซื้อ-ขาย
- การเพิ่ม-ลด จำนวนเงินลงทุน
- การเพิ่ม-ลด เวลาเทรด
- การเปลี่ยนบัญชีจริง-บัญชีทดลอง
- การฝาก-ถอนเงิน
- การเปลี่ยนรูปแบบกราฟ
- การตีเส้นเทรน
- การตีเส้นแนวรับแนวต้าน
- การตั้งค่าตัวชี้วัด (อินดิเคเตอร์)
- การเพิ่ม-ลด กรอบเวลา
เรียนรู้ตลาด
เรียนรู้อะไรบ้าง และเรียนรู้อย่างไร
- เรียนรู้ การเทรด OPTION คืออะไร
- เรียนรู้ การเทรด ไบนารี่ออฟชั่น (Binary option ) คืออะไร
- เรียนรู้ การสร้างกำไรได้จริงไหม จะยึดเป็นอาชีพในอนาคตเราได้ไหม
- เรียนรู้ พื้นฐาน กราฟเคลื่อนที่ได้อย่างไร
- เรียนรู้ พื้นฐาน แรงซื้อ-แรงขาย คืออะไร มาจากไหน
- เรียนรู้ พื้นฐาน คลื่นและธรรมชาติของคลื่น
- เรียนรู้ พื้นฐาน แนวโน้ม หรือ TREND
- เรียนรู้ พื้นฐาน แนวรับแนวต้าน
การเทรด OPTION คืออะไร : ในส่วนนี้ผมได้แนะนำบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงแล้ว แต่หากยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้อ่านก่อนครับ : OPTION คือ?
การเทรด ไบนารี่ออฟชั่น คืออะไร : ในส่วนนี้ผมได้แนะนำบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงแล้ว แต่หากยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้อ่านก่อนครับ : ฺBINARY OPTION คือ?
การเทรด ไบนารี่ออฟชั่น ได้เงินจริงไหม : ในส่วนนี้ผมได้แนะนำบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงแล้ว แต่หากยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้อ่านก่อนครับ : ฺเทรดแล้วได้เงินจริงไหม?
พื้นฐานกราฟเคลื่อนที่ได้อย่างไร
อธิบาย ที่มาของกราฟ ดังนี้
- นี่คือภาพ กราฟ USD/JPY จาก ทั้ง 3 BROKER
- กราฟแท่งเทียน 1 นาที เวลาเดียวกัน
- ทั้ง 3 broker นำกราฟมาจากตลาด Forex (ตลาดซื้อขายสกุลเงิน)
- กราฟจะเคลื่อนที่จากแรงซื้อขาย ตลาดนั้นๆ ก็จะมีลักษณะเหมือนกัน
- เราจะเทรด broker ไหน ก็เทรดได้เช่นกันครับ กราฟเดียวกัน
พื้นฐาน แรงซื้อ-แรงขาย คืออะไร มาจากไหน
อธิบาย แรงซื้อ-แรงขาย ดังนี้(ตามภาพ)
- กราฟนี้เป็นกราฟ การซื้อขาย USD/JPY (หมายเลข 1)
- แรงซื้อ หมายถึง ซื้อ USD หากซื้อมากกว่า ขาย กราฟก็จะวิ่งขึ้น เมื่อนำกราฟแต่ละแท่งเทียนมาต่อกัน ก็จะมองเห็นเป็นแนวโน้มขาขึ้น (แรงซื้อมากกว่าแรงขาย) (หมายเลข 2)
- แรงขาย หมายถึง ขาย USD หากขายมากกว่า ซื้อ กราฟก็จะวิ่งลง เมื่อนำกราฟแต่ละแท่งเทียนมาต่อกัน ก็จะมองเห็นเป็นแนวโน้มขาลง (แรงขายมากกว่าแรงซื้อ)
- ข้อสังเกต กราฟวิ่งขึ้นหรือลง แท่งเทียนจะมีลักษณะแตกต่างกัน(เนื้อเทียนและใส้เทียน) /อาจจะมีเขียวแดงสลับไป (หมายความว่า แม้กราฟจะวิ่งขึ้น-ลง แต่ระหว่างทาง ก็มีการซื้อ-ขายตลอดเวลา เพียงแต่ ในช่วงเวลานั้น มีแรงซื้อ หรือแรงขายมากกว่า เท่านั้นเอง)
- ข้อสังเกต คำว่า ซื้อ USD ขณะเดียวกัน ก็คือ ขาย JPY / คำว่าขาย USD ขณะเดียวกัน ก็คือ ซื้อ JPY นั่นเอง(เพราะเป็นกราฟระหว่าง USD/JPY หากคู่สกุลอื่นก็เปรียบเทียบคู่นั้นๆไป)
พื้นฐาน คลื่นและธรรมชาติของคลื่น
อธิบาย คลื่นและธรรมชาติของคลื่น ดังนี้
- คลื่น คือ ความต่อเนื่องของแรงซื้อแรงขายในตลาด กราฟก็จะมีลักษณะ วิ่งขึ้นวิ่งลงตามแรงซื้อขายนั่นเอง
- ธรรมชาติของคลื่น สังเกตได้ 2 ลักษณะสำคัญ ดังนี้
- หมายเลข 1 ธรรมชาติของมัน(กรณีเทรนขึ้น ก็จะวิ่งเป็นกรอบ (TRACK)
- หมายเลข 2 ธรรมชาติของมัน จะวิ่งมาทดสอบ TREND LINE เสมอ
- การนำไปใช้ประโชน์ หมายเลข 3 เมื่อกราฟวิ่งหลุด TREND LINE ทำให้เราทราบว่า
- แรงซื้อ เริ่มจะหมดแรงแล้ว แรงขายจะเข้ามาแทน
- เทรนขึ้น จะเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว อาจจะพักตัว หรือ เปลี่ยนเป็นเทรนลง
- สามารถนำจุดสังเกตนี้เป็นจุดทำกำไรก็ได้
พื้นฐาน แนวโน้มของตลาด (TREND)
อธิบาย UP-TREND ดังนี้
- เทรนขึ้น หมายถึง แรงซื้อ มากกว่าแรงขาย
- ในช่วงเวลาหนึ่ง สังเกตได้จาก กราฟยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ
อธิบาย DOWN-TREND ดังนี้
- เทรนลง หมายถึง แรงขาย มากกว่าแรงซื้อ
- ในช่วงเวลาหนึ่ง สังเกตได้จาก กราฟลดตัวต่ำลงเรื่อยๆ
อธิบาย SIDEWAY ดังนี้
- SIDE-WAY คือ แรงซื้อ-แรงขาย มีแรงพอๆกัน
- ในช่วงเวลาหนึ่ง กราฟจะวิ่งไปด้านข้าง ไม่ยกตัวหรือลดตัว
พื้นฐาน แนวรับ-แนวต้าน (Support-Resistance)
อธิบาย แนวรับ-แนวต้าน ดังนี้
แนวรับ-แนวต้าน คือ โซนราคาที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของกราฟ
- หมายเลข 1 แนวต้าน ต้านไว้ไม่ให้กราฟวิ่งขึ้นได้ต่อไปอีก มีผลทำให้กราฟพักตัวหรือเปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลงได้
- หมายเลข 2 แนวรับ รับแรงไว้ไม่ให้กราฟวิ่งลงไปต่ออีก มีผลทำให้กราฟพักตัวหรือเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้นได้ สังเกตว่า มีการพยายมทดสอบแนวนี้หลายครั้ง ก็ยังไม่ผ่าน แนวนี้ถือว่าแข็งแรง
- หมายเลข 3 แนวต้าน ที่ทำให้กราฟพักตัว แล้วค่อยขึ้นต่อ อาจไม่แข็งแรงมาก
- หมายเลข 4 แนวรับ ให้สังเกตว่า แนวต้านเก่า หมายเลข 3 ก็อาจจะกลายมาเป็นแนวรับใหม่หมายเลข 4 ได้
- สังเกตว่า แนวรับ-แนวต้าน มีเยอะแยะมากมาย หากจะตีเส้น ก็ลายตาแน่นอน ดังนั้นผู้เริ่มต้นควรฝึกเลือกแนวรับ-แนวต้านที่มีผลต่อแนวโน้ม เพื่อที่จะสร้างจุดเข้าทำกำไรต่อไป
เรียนรู้เทคนิคทำกำไร
เรียนรู้อะไรบ้าง และเรียนรู้อย่างไร
- เรียนรู้ การสร้างเทคนิคการเทรด
- เรียนรู้ การเลือกเทคนิคให้เหมาะกับตัวเอง
การสร้างเทคนิคการเทรดให้ชนะตลาด
- ผู้เริ่มต้น แนะนำ ให้เทรดตามแนวโน้ม
- ผู้เริ่มต้น ต้องเข้าใจพื้นฐานที่ได้กล่าวมาข้างต้นก่อน จะทำให้เข้าใจเทคนิคหรือจุดทำกำไรได้ดีขึ้น
- ผุ้เริ่มต้น ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมถึงชนะ หรือแพ้
การเลือกเทคนิคให้เหมาะกับตัวเอง
สำหรับผู้เริ่มต้น เมื่อท่านศึกษามากขึ้น ก็จะเข้าใจตลาดมากขึ้น แนะนำให้ท่านลองเทรดดูก่อนหลายๆแบบ จากนั้นในการเลือกเทคนิคที่จะมาฝึกฝนทำกำไรนั้น อาจจะคิดหรือสร้างขึ้นมาเอง หรือไม่ก็ไปเรียนกับนักเทรดที่อยู่ในตลาดก็จะเปิดสอนกันหลายเทคนิคครับ ก่อนที่จะเลือกเรียนก็มีเทคนิคการตัดสินใจ ดังนี้
- ตอบคำถามว่า ท่านชอบกราฟแท่งเทียน หรือ กราฟเส้น
- ตอบคำถามว่า ท่านชอบเทรด 1 นาที หรือ มากกว่านั้น
- ตอบคำถามว่า ท่านชอบใช้ indicator หรือไม่
สูตรไบนารี่ออฟชั่น
หลายท่านที่เป็นมือใหม่ คงยังนึกไม่ออกว่าจะใช้เทคนิคอะไรดี ผมมีสูตรเทรดไบนารี่ออฟชั่น ในการหาจุดทำกำไร สามารถฝึกตามได้ทันที
แจกฟรี!!! : สูตรเทรดไบนารี่ออฟชั่น
ฝึกฝน
ฝึกฝนเทคนิค
- ฝึกฝน 1เทคนิค 1 กลยุทธ์ ให้ชำนาญคล่อง
- ผู้เริ่มต้นไม่แนะนำ ให้ใช้เทคนิคหลายรวมกันในการเทรด
- ฝึกฝน ด้วย บัญชีทดลอง (DEMO)
- ฝึกฝน ให้สามารถชนะตลาดได้ 100 %
- ฝึกแบบนี้จะทำให้เราจับจังหวะ Style การเทรดของตัวเองได้
- ฝึกแบบนี้จะทำให้ค้นพบท่าไม้ตาย ของตัวเองเจอ
- ฝึกเพียงเทคนิคยังไม่สามารถทำกำไรได้แบบมืออาชีพ ท่านต้องฝึกวินัยและอารมณ์ด้วยเสมอ
ฝึกฝนอารมณ์เทรด
- การเทรด หากมองอีกมุม คือ ตลาดอารมณ์
- ชนะอารมณ์ตัวเองได้ ก็จะชนะตลาด
- ควรเทรดด้วย เงินจริง ขั้นต่ำ 1 $ (ลดความเสี่ยง)
- ฝึกสังเกต อารมณ์ที่เกิดขึ้นขณะทำการเทรด(ใจร้อน ใจสั่น โมโห โลภ)
- ฝึกจับอารมณ์ที่เกิดขึ้น ถ้ามีอารมณ์รุนแรง ควรงดเทรด
รูปที่ 1
บัญชีจริง
รูปที่ 2
บัญชีทดลอง
ถ้าสมมุติว่า นี่คือ บัญชีของท่านเอง บัญชีจริง และบัญชีทดลอง(รูปทั้ง 2 นำมาจากเวปไซต์ IQ OPTION เพื่อเป็นตัวอย่างศึกษาเท่านั้น)
- รูปที่ 1 ท่านฝากเงินเข้าจำนวน 5,000 $ (ประมาณ 150,000 บาท)
- รูปที่ 2 เงินทดลองฝึกเทรด 10,000 $ (ฝากใหม่ได้ตลอดไว้ทดลองเทรด)
ถามว่า บัญชีไหนทำความกดดันให้ท่านรู้สึกสั่นๆ กล้าๆกลัวๆ กลัวเสีย มือสั่นใจสั่น ครับ(รูปที่ 1 หรือรูปที่ 2 ) ท่านคงได้คำตอบแล้วใช่ไหมครับ (นี่คือเหตุผลว่า ทำไมต้องฝึกอารมณ์การเทรด)
ฝึกฝนวินัยเทรด
- วินัยช่วยให้เราจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
- วินัยช่วยสร้างจิตใต้สำนึกในการเทรด
- วินัยช่วยสร้างนิสัยการเทรดที่ดี
- วินัยช่วยควบคุมอารมณ์เทรดได้ดีขึ้น
- วินัยช่วยให้เราให้ความสำคัญกับ แต่ละ ORDER ไม่เทรดฟุ่มเฟือย
- แนะนำการสร้างวินัยการเทรด เช่น ใน 1 วัน ต้องตั้งเป้าไว้ว่า จะเทรด 3-5 ไม้ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็จะหยุดเทรด
ฝึกฝนการขยายผังการเงิน
- เทคนิคที่ผมใช้ คือ EVEREST CONCEPT
- เทคนิคนี้มาจาก การไต่เขา นั่นเอง
- ช่วยให้ใจไม่สั่น เมื่อลงทุนมากขึ้น
- เป็นส่วนหนึ่งในจิตวิทยาการเทรด
- ฝึกขยายทุนเทรด เช่น เทรดไม้ละ 1 $ -5$-10$ ……เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- เป็นหลัก คานผ่อนแรง เทรดเท่าเดิม แต่เพิ่มเติมคือกำไรมากขึ้น
- ช่วยให้เราสามารถปั้นพอตเพิ่มขึ้นได้ดีขึ้น
ฝึกฝนการปั้นพอต
- ฝึกการปั้นพอตเงินทุน ช่วยลดความเสี่ยง
- ฝึกปั้นเงินทุนน้อยๆ เช่น จาก 10 $ ไป 100 $ เป็นต้น
- ช่วยให้ผู้เริ่มต้นที่มีทุนน้อย สามารถสร้างกำไรได้
- หมดข้ออ้าง ที่ว่า “ไม่มีเงินลงทุน”
- เป็นหลักการ เอาเงินต่อเงิน ที่แท้จริง
การเรียนรู้ อย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอน ช่วยให้ผมอยู่รอดในตลาด นี่คือ อาชีพนักเทรด ในสายตาของผม
เทรดไบนารี่ออฟชั่นให้ได้กำไร
บทความนี้ผมได้แนะนำไว้ข้างต้นแล้ว ถ้ายังไม่ได้อ่าน จึงนำมาแนะนำอีกครั้ง อ่านแล้วจะเข้าใจมากขึ้นว่า เทรดไบนารี่ออฟชั่นให้ได้กำไร มีเส้นทางเดินอย่างไร
สร้างกำไร
อยู่รอดในตลาด
- เป้าหมายแรก ที่เราต้องตั้งคือ รอดในตลาด
- อยู่รอดในตลาด กำไรจะไม่เยอะ แต่จะไม่ล้างพอต หรือขาดทุนจนยอมรับความเสี่ยงไม่ได้
- ถ้ายังไม่รอดในตลาด ก็ลองย้อนอ่านเนื้อหาข้างต้น เราต้องฝึกส่วนไหนเพิ่มเติม
- สิ่งที่มือใหม่เข้าใจคลาดเคลื่อน คือ เมื่อแพ้ตลาด และไปหาเทคนิคใหม่เรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่ดีมากนัก
- จะอยู่รอด ต้องฝึกเทคนิค ฝึกอารมณ์ และวินัย รวมทั้งมีการบริหารการเงิน
เป็นอาชีพเสริม
- ตั้งเป้าให้เท่ากับ รายได้จากงานประจำ
- หากเรามีเงินเดือน 15,000 ก็ตั้งเป้ากำไรจากการเทรด 15,000 บาทต่อเดือน
- มีกำไรประมาณ วันละ 500-1000 บาท
- เป็นรายได้เสริมอีกทางได้ ดีกว่าไม่มีเลย
เป็นนักเทรดเต็มตัว
- เป็นการตั้งเป้าที่จะยึดอาชีพเทรด เป็นอาชีพหลัก
- เป็นเป้าหมายเฉพาะบุคคล
- บางคนอาจจะทำงานอื่นร่วมด้วยก็ได้ เพราะการเทรดจริงๆ ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวันอยู่แล้ว ไม่กระทบงานประจำ
- ถ้าใช้เวลาเทรด เกิน 1 ชั่วโมง ผมถือว่าไม่ใช่วิธีการเทรดที่ดี สติ จะลดลงไป อารมณ์ใจร้อนจะเข้ามาแทน ทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพที่ลดลง